น้ำเลี้ยงปลามังกรแต่ละชนิด

เราควรรู้จักข้อดี และจุดที่ต้องระวังของแหล่งน้ำแต่ละชนิดให้ดีก่อนที่จะนำไปเลี้ยงปลา เพื่อป้องกันปัญหาที่ตามมาทีหลังได้ เช่นการน๊อคน้ำ เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้น้ำอยู่ 4 แบบดังนี้

  • น้ำประปา
  • น้ำบ่อ หรือ น้ำบาดาล
  • น้ำฝน
  • น้ำดื่ม

1. น้ำประปา

จริงๆแล้วเป็นน้ำที่ดีที่สุดสำหรับผมในการเลี้ยงปลา โดยส่วนใหญ่น้ำประปาจะมี ph ที่ 7.0 เพราะเป็นน้ำที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพน้ำมาอย่างดีแล้ว จึงปลอดภัยทั้งเชื้อโรค และสารพิษที่เป็นอันตรายกันปลา  แต่การที่จะใช้น้ำประปาเลี้ยงปลา จะมีแค่จุดเดียวที่ต้องระวังให้มากๆ คือคลอรีน ยิ่งโดยเฉพาะบางช่วง คลอรีนจะมีปริมาณมากกว่าปกติ สังเกตุได้จากกลิ่น ที่บางครั้งก็แทบไม่มีกลิ่น แต่บางครั้งก็มาแรงมาก

การเตรียมน้ำ ต้องกำจัดโดยผ่านคาร์บอน (เครื่องกรองคลอรีน ที่จุผงคาร์บอนอย่างน้อย 15 ลิตรขึ้นไป) จากนั้น พักแล้วเป่าอากาศ 12-24 ชม.  ก็พร้อมใช้งานแล้วครับ
* น้ำประปาที่ใช้วิธีการพักไว้เฉยๆโยไม่ผ่านคาร์บอน ค่อนข้างเสี่ยงกับการนำมาใช้ แนะนำให้ซื้อชุดทดสอบคลอรีน เพื่อตรวจสอบปริมาณคลอรีนในน้ำจะดีที่สุด

 

2. น้ำบ่อ หรือ น้ำบาดาล

การใช้น้ำบ่อหรือ น้ำบาดาลเลี้ยงปลา จะมีความยุ่งยากในการจัดการมากกว่าน้ำชนิดอื่นๆ เพราะเป็นน้ำดิบที่ได้จากธรรมชาติโดยยังไม่ผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำใดใดมาก่อน ดังนั้นก่อนใช้งานจึงต้องระวังในเรื่องต่อไปนี้

  • อากาศแทบไม่มี เพราะเป็นน้ำที่อยู่ใต้ดิน อากาศในน้ำจึงแทบไม่มีเลย
  • ค่า ph ที่แกว่งตามสภาพอากาศ
  • สารต่างๆจากธรรมชาติที่อาจจะเป็นอันตรายกับปลา (ขึ้นอยู่กับพื้นที่)
  • เพราะเป็นน้ำจากธรรมชาติ เชื้อโรคจากธรรมชาติจึงมีเช่นกัน ดังนั้นในระยะยาว ปลาอาจจะมีโรคบางอย่างที่เราคาดไม่ถึง เช่นหัวเป็นรู เป็นต้น

การเตรียมน้ำ ก่อนจะนำน้ำชนิดนี้ไปใช้ เราควรปรับปรุงน้ำก่อน เช่นผ่านตัวกรองน้ำบาดาล และพักเอาไว้อย่างน้อย 3 วันก่อนใช้งานเพื่อเพิ่มอากาศในน้ำ และปรับสภาพน้ำทั้งในเรื่อง ph และการตกตะกอนของสารบางชนิดที่เป็นพิษกับปลา

 

3. น้ำฝน

อย่างที่ทราบกันดีคือ ไม่ควรใช้น้ำฝนที่ตกในรอบแรกๆ เพราะมันจะปนเปื้อนมลพิษในชั้นบรรยากาศ ซึ่งมีผลกับตัวปลาโดยตรงเลย โดยส่วนใหญ่จะใช้น้ำฝนที่ตกเกินรอบที่ 3 ในการนำต้มดื่มหรือเพื่อใช้งานทั่วๆไป

การเตรียมน้ำ ควรพักน้ำไว้ 3วันเป็นอย่างน้อย เพื่อให้สารเจือปนบางอย่างตกตะกอน และเป็นการปรับค่า ph ไปในตัว แล้วจึงค่อยใช้น้ำฝนเลี้ยงปลาได้อย่างปลอดภัย

 

4. น้ำดื่ม

น้ำกิน บางคนก็เรียก น้ำถังขุ่น เรื่องความสะอาดนั้นหายห่วงเลยครับ ส่วนใหญ่สามารถดื่มได้โดยไม่ต้องต้มแล้ว (แต่ต้มก่อนตื่มจะดีกว่าครับ) เพราะกรองน้ำดื่มมีความละเอียดสูงมาก และถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับน้ำปริมาณน้อย (ไว้แค่ดื่ม) ไม่ใช่เพื่อใช้งานทั่วไป ที่ต้องใช้ปริมาณน้ำต่อครั้งเยอะมาก ดังนั้นผมจึงไม่ค่อยแนะนำไว้ใช้กรองน้ำเพื่อเลี้ยงปลา เพราะกรองจะเต็มเร็ว และอายุการใช้งานสั้นมากๆ และกรองแบบนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ถ้าเทียบต่อลิตรครับ

การเตรียมน้ำ น้ำดื่มในปัจจุบันจะใช้วิธี รีเวอร์สออสโมซิส (RO.) ซึ่งน้ำนั้นจะไม่เหลืออะไรเลยแม้กระทั่งแร่ธาตุต่างๆ ดังนั้นก่อนใช้จึงควรเติมเกลือเข้าไปในอัตราส่วน เกลือ1ขีด/น้ำ 100ลิตร หรือเติมแร่ธาตุ (น้ำ/ผง) สำหรับการเลี้ยงปลาไปด้วยก็จะดีครับ