การเลี้ยงปลามังกร กับคุณภาพน้ำในการเลี้ยง
การเลี้ยงปลามังกร เลี้ยงอย่างไรไม่ให้ตาย (ตอนที่ 3/4) ก่อนที่เราจะเลี้ยงปลามังกรให้สวย เราต้องรู้ก่อนว่า อะไรที่สามารถทำให้ปลามังกรของเราเสียหาย และอาจถึงตายได้ คราวที่แล้วเราพูดถึงสาเหตุการตายเพราะการบาดเจ็บและการน๊อคน้ำไปแล้ว คราวนี้เราจะพูดถึงเรื่อง “คุณภาพน้ำ” เพราะเชื่อว่าหลายๆคนคงไม่ได้ใช้ น้ำประปาเลี้ยงปลา แค่อย่างเดียวแน่นอน บางคนอาจจะใช้ น้ำกินเลี้ยงปลา น้ำบาดาลเลี้ยงปลา หรือแม้กระทั้ง น้ำฝนเลี้ยงปลา ก็มีให้เห็นบ่อยๆ
แต่ก่อนที่จะเริ่มเรื่อง เรามาสรุปก่อนนะครับว่า สาเหตุการตายหลักๆมีอะไรบ้าง
4 สาเหตุหลักๆที่ทำให้ปลาตายมีดังต่อไปนี้ครับ
- ปลามังกรบาดเจ็บ (อ่านย้อนหลังได้)
- ปลามังกรน๊อคน้ำ (อ่านย้อนหลังได้)
- คุณภาพน้ำแย่ (บทความนี้ที่กำลังพูดถึง)
- ปลามังกรป่วย (อ่านย้อนหลัง)
เป็นความคิดที่ผิดมากๆ ที่ว่าปลาสามารถปรับตัวอยู่กับคุณภาพน้ำที่แย่ๆได้
คุณภาพน้ำที่แย่ จะกลายเป็นพิษกับปลาซะเอง
การเลี้ยงปลามังกร ในตู้ที่เป็นระบบปิด ไม่ว่าจะใช้ น้ำบาดาลเลี้ยงปลา หรือใช้ น้ำฝนเลี้ยงปลา เราควรต้องมีระบบกรองที่จะคอยบำบัดน้ำให้มีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากกรองชีวภาพทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมากนะครับ การที่คุณภาพน้ำแย่ ถ้าไม่รุนแรงมากก็อาจจะทำให้ปลาเครียด ไม่กินอาหารจนสุดท้ายป่วยตาย หรือถ้าขั้นหนัก น้ำกลายเป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจและเลือด ปลาอาจจะตายภายในไม่กี่วันเลยก็ได้ครับ
เริ่มต้นการเตรียมน้ำแต่ละชนิด
เตรียมน้ำดีก็ลดโอกาศปลาน๊อคน้ำไปได้สูง และโดยส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้น้ำอยู่ 4 แบบดังนี้
- น้ำประปา
- น้ำดื่ม
- น้ำบ่อ/น้ำบาดาล
- น้ำฝน
การเตรียมน้ำประปา
จริงๆแล้วเป็นน้ำที่ดีที่สุดสำหรับผมในการเลี้ยงปลา แต่การที่จะใช้ น้ำประปาเลี้ยงปลา จะมีแค่จุดเดียวที่ต้องระวังให้มากๆ คือคลอรีน ต้องกำจัดโดยผ่านคาร์บอน (เครื่องกรองคลอรีน) จากนั้น พักแล้วเป่าอากาศ 12-24 ชม. ก็พร้อมใช้งานแล้วครับ
การเตรียมน้ำดื่ม
น้ำกิน บางคนก็เรียก น้ำถังขุ่น เรื่องความสะอาดนั้นเป็นที่หนึ่ง แต่การใช้ น้ำกินเลี้ยงปลา ในปัจจุบันจะใช้วิธี รีเวอร์สออสโมซิส (RO.) ซึ่งน้ำนั้นจะไม่เหลืออะไรเลยแม้กระทั่งแร่ธาตุต่างๆ ดังนั้นก่อนใช้จึงควรเติมเกลือเข้าไปในอัตราส่วน เกลือ1ขีด/น้ำ 100ลิตร หรือเติมแร่ธาตุ (น้ำ/ผง) สำหรับการเลี้ยงปลาไปด้วยก็จะดีครับ
การเตรียมน้ำบ่อ/น้ำบาดาล
เป็นน้ำที่ประหยัดที่สุด แต่การใช้น้ำบ่อหรือ น้ำบาดาลเลี้ยงปลา จะมีความยุ่งยากในการจัดการมากกว่าน้ำชนิดอื่นๆ เพราะเป็นน้ำดิบที่ได้จากธรรมชาติ จึงต้องระวังในเรื่องต่อไปนี้
- อากาศแทบไม่มี เพราะเป็นน้ำที่อยู่ใต้ดิน อากาศในน้ำจึงแทบไม่มีเลย
- ค่า ph ที่แกว่งตามสภาพอากาศ
- สารต่างๆจากธรรมชาติที่อาจจะเป็นอันตรายกับปลา (ขึ้นอยู่กับพื้นที่)
- เพราะเป็นน้ำจากธรรมชาติ เชื้อโรคจากธรรมชาติจึงมีเช่นกัน ดังนั้นในระยะยาว ปลาอาจจะมีโรคบางอย่างที่เราคาดไม่ถึง เช่นหัวเป็นรู เป็นต้น
- ควรปรับปรุงน้ำก่อนใช้ ควรผ่านตัวกรองน้ำบาดาล และพักเอาไว้อย่างน้อย 3 วันก่อนใช้งานเพื่อเพิ่มอากาศในน้ำ และปรับสภาพน้ำทั้งในเรื่อง ph และการตกตะกอนของสารบางชนิดที่เป็นพิษกับปลา
การเตรียมน้ำฝนเลี้ยงปลา
อย่างที่ทราบกันดีคือ ไม่ควรใช้น้ำฝนที่ตกในรอบแรกๆ เพราะมันจะปนเปื้อนมลพิษในชั้นบรรยากาศ ซึ่งมีผลกับตัวปลาโดยตรงเลย อย่างน้อยฝนที่ตก 3 รอบแรกควรปล่อยผ่านไปก่อน แล้วควรพักน้ำไว้3วัน เพื่อให้สารเจือปนบางอย่างตกตะกอน และเป็นการปรับค่า ph ไปในตัว แล้วจึงค่อยใช้ น้ำฝนเลี้ยงปลา ได้อย่างปลอดภัย
การทำให้น้ำมีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ
เมื่อเราเตรียมน้ำพร้อมแล้ว เราก็จะลดปัญหาปลาน๊อคน้ำไปได้สูง ทีนี้เมื่อเริ่มเลี้ยงไปแล้ว คุณภาพของน้ำระหว่างเลี้ยงก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย (จะมีปัญหาก็ตรงนี้แหล่ะครับ) ลองมาอ่านการควบคุณภาพน้ำให้ดีอยู่เสมอกันครับ
น้ำมีอ๊อคซิเจนอยู่อย่างเพียงพอ
หมดคำถามว่า เลี้ยงปลามังกรไม่ใส่อ๊อคได้หรือไม่ นี้คือคำตอบครับ เราต้องใส่อากาศลงไปในน้ำให้มากพอ เพราะอ๊อกซิเจนคือสิ่งแรกของกระบวนการบำบัดน้ำจากกรองชีวภาพ
ระบบกรองต้องเอาอยู่
ทั้งส่วนที่เป็นกรองทางกายภาพ เช่นพวกใยกรอง และกรองชีวภาพก็เช่น หินกรองทั้งหลายที่จมอยู่ในน้ำ และควรล้างระบบกรองบ้าง โดยการล้างรื้อออกมาล้างกับน้ำเดิม หรือไม่ก็เป็นน้ำที่ไม่มีคลอรีน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าระบบกรองของเราเอาอยู่หรือไม่ ผู้เลี้ยงควรมีชุดทดสอบ ph แอมโมเนีย (NH3/NH4) และ ไนไตรท์ (NO2) คอยมอนิเตอร์ค่าน้ำตลอด โดยที่เมื่อเรารู้ค่าพวกนี้ เราก็จะรู้คุณภาพน้ำของเราที่แท้จริง และแก้ไข้ได้ทันครับ
- ph ไม่ควรเกิน 7.0 – 8.5
- แอมโมเนีย (NH3/NH4) ใกล้เคียง 0.0 ให้มากที่สุด และยิ่งน้ำมีอุณหภูมิและph สูง แอมโมเนียก็ยิ่งเป็นพิษต่อตัวปลามากขึ้นตามไปด้วย
- ไนไตรท์ (NO2) ใกล้เคียง 0.0 ให้มากที่สุด
เปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอ
เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอใน การเลี้ยงปลามังกร เพราะจะช่วยเจือจางสารพิษในน้ำไปได้ดีมาก เช่นอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ประมาณสัก10-20% /ครั้ง ไม่ปล่องทิ้งไว้นานเกินไป เพราะการกรองแบบระบบปิดนั้น ในระยะยาวมันไม่สามารถบำบัดน้ำเดิมๆได้สมบูรณ์หรอกครับ มันจะสะสมสารบางอย่างเช่น ไนเตรท (NO3) ซึ่งต่อให้อยู่ในระดับต่ำแต่หากปลาอยู่ในสภาพแบบนั้นนานๆ มันก็จะเป็นพิษกับปลาได้เช่นกัน
คลอรีนในน้ำประปา จะทำให้กรองล่ม
เพราะต่อให้มีคลอรีนในปริมาณไม่มากพอที่เป็นอันตรายต่อตัวปลา แต่แบคทีเรียในระบบกรองอาจจะตายหมด ระบบกรองล่ม การบำบัดน้ำก็ไม่มีประสิทธิภาพ สุดท้าย น้ำก็เสียอยู่ดีครับ